ความเป็นมา
ประเทศไทยตั้งอยู่ในคาบสมุทรอินโดจีน เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ประเทศไทยมีพื้นที่ป่ามากกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่ทั้งหมด แต่ข้อมูลขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ในปี 2559 ได้ชี้ให้เห็นว่า พื้นที่ป่าของไทยเหลือเพียงร้อยละ 32 ของพื้นที่ทั้งหมด ข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรของไทยบ่งชี้ว่า พื้นที่ประมาณ 3.2 ล้านเฮกตาร์ถูกใช้เพื่อเพาะปลูกยางพารา และยังมีพื้นที่กว่า 1 ล้านเฮกตาร์ที่ถูกใช้เพื่อเพาะปลูกปาล์มน้ำมัน โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อปี ทั้งนี้ สวนปาล์มน้ำมันและโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มมักกระจุกตัวอยู่ในภาคใต้ของไทย แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีการขยายตัวไปยังภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ยังประมาณการว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าพรุเขตร้อนอยู่ที่ 64,000 – 75,000 เฮกตาร์ โดยมีการระบายน้ำออกจากพื้นที่เหล่านี้เพื่อนำไปใช้ทำการเกษตรอยู่อย่างสม่ำเสมอ เช่น สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และนาข้าว โดยสรุปแล้ว ประมาณร้อยละ 41.5 ของพื้นที่ทั้งหมดในประเทศไทยถูกใช้เพื่อทำการเกษตร
ความท้าทายเหล่านี้ส่งผลให้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินโครงการส่งเสริมต้นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตรวดเร็วและปลูกฟื้นฟูป่าอย่างทันท่วงที โดยโครงการนี้ดำเนินแนวทางฝึกอบรมชุมชนให้ปลูกเชื้อราไมคอร์ไรซาร่วมกับพันธุ์ไม้ท้องถิ่นเพื่อช่วยฟื้นฟูป่าในพื้นที่ และยังช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดต่าง ๆ เช่น ความเชื่อที่ว่าพันธุ์ไม้ท้องถิ่นเจริญเติบโตช้า รวมถึงสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ที่มีการตัดไม้ทำลายป่าและเกษตรกรรมในภาคใต้ของไทย ให้ดำเนินการฟื้นฟูป่าโดยใช้แนวทางที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนและเกษตรกรท้องถิ่น
เวียดนาม ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็กำลังเผชิญกับปัญหาการเสื่อมโทรมของป่าและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพเช่นกัน จังหวัดลัมดง (Lam Dong) ตั้งอยู่ในที่ราบสูงตอนกลางของเวียดนาม และเป็นที่รู้จักในฐานะพื้นที่ซึ่งมีความสำคัญทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดลัมดง คือ ดาลัต (Da Lat) ซึ่งมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว รวมถึงการทำปศุสัตว์ ธุรกิจพืชสวน และพื้นที่ทำเกษตรกรรม กิจกรรมเหล่านี้ส่งผลให้พื้นที่ป่าถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว โครงการนี้จึงสนับสนุนการปลูกฟื้นฟูป่าที่มีชุมชนเป็นศูนย์กลางและอิงหลักการทางวิทยาศาสตร์ โดยทำงานร่วมกับนักปักษีวิทยาและนักวิทยาเชื้อรา เพื่อสร้างระบบป่าที่สมบูรณ์และสอดคล้องกับรายได้ของชุมชนท้องถิ่น
เทคนิคพื้นฐานในการฟื้นฟูป่าในทั้งไทยและเวียดนาม คือ ความสัมพันธ์แบบอิงอาศัยกันระหว่างไมคอร์ไรซาและพันธุ์ไม้ท้องถิ่น ไมคอร์ไรซาเป็นเชื้อราชนิดหนึ่ง (อินทรียวัตถุที่อาศัยอยู่ในดินและพืช) ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนสารอาหารกับต้นไม้ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของระบบนิเวศป่าไม้ ซึ่งการศึกษาระบบนิเวศนิเวศวิทยาป่าไม้พบว่า ไมคอร์ไรซาจะเป็นประโยชน์ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงแดดปริมาณมากและธาตุอาหารในดินต่ำ และต้นไม้ที่มีการอยู่ร่วมแบบอิงอาศัยกับเชื้อราจะเจริญเติบโตได้รวดเร็วกว่าต้นไม้ที่ไม่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบดังกล่าว